แฟรนไชส์ร้านชาในจีนยังเติบโตแบบ “ไม่มีตก”
แบรนด์ดังอย่าง Heytea, Naixue Tea, Chabaidao
ปรับตัวต่อเนื่องด้วยเมนูใหม่ + ระบบจ่ายผ่านมือถือ + ดีไซน์ร้านถ่ายรูปได้
ปี 2025 เทรนด์คือ “ชาเพื่อสุขภาพ” และ “เมนูโลว์ชูการ์ + โปรตีนสูง”

จุดเด่น: ต้นทุนแฟรนไชส์ไม่สูงเกินไป กำไรจากยอดขายต่อแก้วสูง
 

ตัวอย่างเช่น ร้านหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร / ร้านบะหมี่หุ่นยนต์ / Robot Barista
ดึงดูดทั้งวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่ต้องการประสบการณ์แปลกใหม่
จุดเด่น: ลดค่าแรง, ทำงานได้ 24 ชม., และมีจุดขายด้าน “ไวรัล-ถ่ายคลิปได้

ร้านเกม VR, พิพิธภัณฑ์ AR, ร้านจำลองโลกเสมือน (Metaverse Café)
กำลังผุดขึ้นในเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, เสิ่นเจิ้น
ปี 2025 เน้น “อินเตอร์แอคทีฟ” + “เรียนรู้ผ่านประสบการณ์”
ลูกค้าคือกลุ่มวัยรุ่น นักท่องเที่ยว และครอบครัว

จุดเด่น: เป็นแฟรนไชส์ที่ยังมีคู่แข่งน้อย และขยายได้เร็วในห้าง-เมืองท่องเที่ยว

ใช้ระบบ AI + กล้องจดจำใบหน้า + จ่ายเงินอัตโนมัติ
แบรนด์ดัง: JD X, BingoBox, Suning Smart Store เหมาะกับพื้นที่ใกล้หอพัก โรงงาน หรือศูนย์ IT

จุดเด่น: ลดต้นทุนแรงงาน และเปิดได้หลายสาขาพร้อมกัน

ปี 2025 ร้านความงามจีนเริ่มใช้ระบบ AI Skin Analysis
ลูกค้าแค่สแกนหน้า → ระบบแนะนำครีม / ทรีตเมนต์ให้ทันที
แฟรนไชส์แบบนี้ผุดขึ้นในห้างและออนไลน์ควบคู่

จุดเด่น: สร้างความแตกต่างจากร้านความงามทั่วไป และมีมูลค่าเพิ่มต่อหัวลูกค้าสูง